Monday, June 11, 2007

กระบี่ 1

พฤษภาคม 2550

สองอาทิตย์ก่อนที่เราจะเดินทางไปยังกระบี่ พายุฝนกระหน่ำหลายจังหวัดในประเทศไทย เฝ้ามองเวปพยากรณ์อากาศทุกวัน ลุ้นไปด้วยว่ากว่าเราจะเดินทางถึงกระบี่พายุฝนคงผ่าน ฝนคงหยุดตก ไม่งั้นเป็นต้องนั่งเหงาเฝ้าห้องโรงแรมที่พักไป

จะเป็นด้วยโชคดีหรือบุญเก่าสนองผลก็ตาม เมื่อเราเดินทางไปถึงสนามบินกระบี่นั้น ไม่มีเค้าฝนเลยซักนิด ถึงแม้จะเป็นเวลาเกือบสองทุ่มอากาศก็ยังร้อนอบอ้าว เหงื่อไหลซึมจนเสื้อชุ่ม อย่างนี้ถ้ามีฝนตกก็จะช่วยลดความร้อนอบอ้าวได้บ้าง เอ้า..เป็นงั้นไป เราเลือกพักที่โรงแรมปกาศัย โรงแรมดี เงียบสงบ พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส มุมอาหารเช้าอยู่กลางสวนสวย มีน้าพุ ไม้ดอกไม้ใบและกล้วยไม้งาม ๆ ให้นั่งดูไปด้วย

หลังจากอาหารเช้า เรากะว่าจะออกไปเดินเล่นแถวอ่าวนาง ถือเสื่อและผ้าเช็ดตัวที่โรงแรมเตรียมไว้บริการพร้อมผลไม้นิดหน่อย เพื่อไปหาที่นั่งเล่นหน้าหาด พร้อมกับมองหาทัวร์สี่เกาะสำหรับวันรุ่งขึ้น แต่เนื่องจากท้องฟ้าสดใสเสียเหลือเกิน ก็เลยตัดสินใจไปกับทัวร์ซะวันนั้นเลย

ตกลงจ่ายค่าเช่าเรือหางยาวที่ 1800 บาทต่อวัน คนขับเรือไปเช่าหน้ากากดำน้ำตื้นให้ในราคาอันละ 50 บาท เราก็ไปสั่งข้าวผัดที่ร้านอาหารแถวนั้น แพงดีเหมือนกัน ข้าวผัด 4 ห่อและปลาหมึกชุบแป้งทอดหนึ่งที่เป็นเงินทั้งสิ้น 495 บาท หาซื้อน้ำและของคบเคี้ยวที่ร้านมินิมาร์แถวนั้น เมื่อพร้อมแล้วก็เป็นเวลาเกือบสิบเอ็ดโมงเช้า
เราไปเกาะทับก่อน ตรงที่มีทะเลแหวก เพียงแต่ว่ามันยังไม่แหวกเท่านั้นเอง แต่มองเห็นเป็นแนวทรายใต้ทะเล มีคนหลาย ๆ คนพยายามเดินไปบนนั้น น้ำทะเลใสแจ๋ว ทรายขาวนวล มองเป็นปลาสีสวยเป็นฝูงใต้น้ำ เสน่ห์ทะเลไทย

จากนั้นเราไปเกาะไก่ ซึ่งเราว่าเหมือนไก่งวงมากกว่าไก่ใด ๆ ทั้งสิ้น น้ำทะเลเป็นสีเขียวใส ดำน้ำดูปะการังและปลาสีสวย ปลาเหล่านี้ไม่กลัวคนเลย ว่ายเข้ามาใกล้ ๆ หาขนมปังกินตามที่เคย ๆ มา ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งดีหรือร้ายกันแน่

แวะกลับมาที่เกาะปอดะ เริ่มหิว กลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ น้ำใส ทรายขาว ทำให้ข้าวผัดธรรมดา ๆ รสชาติอร่อยเสียเหลือเกิน หลังทานข้าวเราว่ายน้ำเล่น ปลาตัวเล็กอยู่กันเป็นฝูงใหญ่ทำให้มองเห็นเป็นเงาสีดำทมึนใต้น้ำ ว่ายน้ำจนแดดเผาเกรียม แต่มีความสุขจริง ๆ นะ

บ่ายจัดเราแล่นเรือไปหาดไร่เลย์ เพื่อแวะชมถ้าพระนาง น้ำใสน่าเล่นอีกแล้ว แถวนี้มีร้านอาหารซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรมบนหาดนี้ บรรยากาศน่านั่งมาก เสียแต่ว่าเขาเอาใว้บริการเฉพาะแขกของโรงแรมเท่านั้น ไม่เป็นไรเราไม่ได้เสียผลประโยชน์ เจ้าของโรงแรมต่างหากที่ไม่ได้เงินจากเรา


ใกล้ถ้ำพระนางมีโขดหินสูง นักท่องเที่ยววัยรุ่นปีนขึ้นไปแล้วกระโดดลงมา น่าสนุก แต่แก่ ๆ อย่างเรามองเฉย ๆ ดีกว่า วันนี้เราก็เลยจบความสนุกในธรรมชาติอันสวยงามของกระบี่ที่ถ้ำพระนาง






No comments: