Wednesday, February 03, 2010

Hawaii – day 3

Night snorkeling with Manta Rays

วันนี้ตื่นแต่เช้าอีกเหมือนเดิม ร่างกายค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับเวลาท้องถิ่น เราเริ่มต้นวันด้วยกาแฟสดโคน่าชงเองหอมกรุ่น กินกับโยเกิร์ทที่ซื้อมาตุนไว้เมื่อวาน กับขนมปังหวาน (Sweet bread) ที่เป็นขนมปังประจำถิ่น ปาดแยมสตอร์แบรรี่อร่อยลิ้น

วันนี้เราจะไปนอนเล่นบนหาดที่เขาบอกว่าดีที่สุดของเมืองโคน่าชื่อ Kua Bay เป็นหาดที่มีทรายขาวเป็นที่นิยมของคนท้องถิ่น ดังที่กล่าวไปแล้วเกาะใหญ่นี้มีหินภูเขาไฟเป็นฐาน หาดไม่ค่อยมีทราย หรือมีก็เป็นทรายดำอิทธิพลจากหินลาวาไหลจากภูเขาไฟ อีกทั้งที่ตั้งของเกาะอยู่กลางมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ จึงล้อมรอบไปด้วยทะเลเปิด หาที่เล่นน้ำตื้นยากมาก



ระหว่างทางไปหาดสองข้างเห็นแต่หินภูเขาไฟที่เริ่มมีหญ้าขึ้นประปราย มองไปไกลโล่งหูโล่งตา เป็นหินดำแซมด้วยหญ้าสีเหลืองนวลสวยไปอีกแบบ



หาดนี้ไม่มีป้ายบอกชัดเจน เข้าใจว่าเขาสงวนไว้สำหรับคนท้องที่ แต่นักท่องเที่ยวก็รู้กันจากปากต่อปาก หรือหนังสือคู่มือท่องเที่ยวบางเล่ม รวมทั้งอินเตอร์เน็ทด้วย ก่อนถึงหาดเนินเขาสองลูกเล็ก ๆ ที่เกิดจากหินภูเขาไฟไหลมาถมเป็นเนินสูงเหมือนภูเขาหญ้าสีเหลืองตัดกับท้องฟ้าสวย



เมื่อถึงหาดออกจะผิดหวังเล็กน้อย เพราะเห็นเป็นหาดทรายเล็กนิดเดียว นอกนั้นเป็นโขดหิน เวลาจะนั่งก็ต้องหาที่ว่างตามโขดหิน สาวไทยอย่างเราได้ยึดร่มใต้ต้นไม้เป็นที่นั่งดูทะเลและนักโต้คลื่นแถมปลาวาฬพ่นน้ำด้วย



ฟ้าสวยสดตัดกับน้ำทะเลสีเขียวอมฟ้า คลื่นลูกใหญ่ถาโถมสู่ฝั่งอยู่ตลอดเวลา ที่คอนโดมีเก้าอีผ้าใบและเสื่อให้ด้วย ก็ขนมาทั้งสองแบบ เอาไว้นั่งและนอนตามชอบใจ



หลายคนมาเล่นกระดานโต้คลื่น ทั้งเพิ่งหัดและที่เล่นมานานแล้ว ไม่ไกลออกไปเท่าไหร่ปลาวาฬโผล่มาพ่นน้ำให้เห็นเป็นระยะ ๆ หน้าหนาวของทุกปี ฝูงปลาวาฬจะอพยพมาอยู่แถวนี้ ทั้งเพื่อผสมพันธุ์และคลอดลูกอ่อน ดังนั้นจะมีปลาวาฬให้เห็นรอบเกาะไม่ว่าจะอยู่จุดไหน



ทีแรกว่าจะว่ายน้ำเล่น แต่เห็นคลื่นแล้วทำใจไม่ได้ แต่ถึงกระนั้นเวลาสองชั่วโมงที่เรานั่งเล่นใต้ต้นไม้ก็เป็นเวลาแห่งความสงบและสวยงามน่าประทับใจดี



ใกล้เที่ยงแล้วเริ่มหิว เมื่อวานเห็นร้านอาหารไทยอยู่ร้านหนึ่งติดบริษัททัวร์ ที่ Kailua-Kona อยากกินอาหารรสจัดจังวันนี้ไปแวะทานดีกว่า สั่งส้มตำและยำปลาหมึกมากินกับชาไทยเย็น ๆ ริมหาด อร่อยดีแท้

ตกเย็นเราไปลงเรือเพื่อดำน้ำกับปลากระเบน (Manta Ray) โดยไปกับเรือ Hula Kai ที่มีลูกเรือที่เป็นมิตรและมีความรู้มาก ๆ ยังไม่นับหน้าตาหล่อเหลานะจ๊ะ



ระหว่างรอขึ้นเรือที่ท่า เต่าทะเลตัวหนึ่งก็มาอวดโฉมให้ชมซึ่ง ๆ หน้า เลยจับถ่ายรูปซะหน่อย



การชมปลากระเบน ต้องเป็นตอนกลางคืน เพราะกระเบนชนิดนี้กินแพลงค์ตอนเป็นอาหาร และแพลงค์ตอนก็ชอบแสง เขาจึงเอาไฟมาเปิดล่อแพลงค์ตอน กระเบนก็ตามแพลงค์ตอนมาไงล่ะ เราก็จะได้ดำน้ำร่วมกับมัน

ก่อนออกเรือเราได้ชุด wet suit คนละชุด หน้ากากดำน้ำและครีบ เมื่อไปถึงจุดดำน้ำซึ่งไม่ไกลจากฝั่งนัก ประมาณหนึ่งร้อยเมตรเห็นจะได้ พนักงานปลอ่ยทุ่นลอยเหมือนข้อกระดูกต่อกันไปในน้ำ เพื่อให้คนจับ บนทุ่นติดไฟสป็อทไลท์เพื่อส่องปลาด้วย



พอปล่อยทุ่นปั๊ปปลากระเบนก็ปรากฏตัวเลย แรก ๆ มีมาสามตัว หลังเป็นสีดำ ท้องขาว ไม่กลัวคนเลย กระเบนชนิดนี้ไม่มีเข็มแหลม ไม่มีฟันหรือหนังที่ขรุขระ จึงปลอดภัยที่จะดำน้ำร่วมกับมัน



กระเบนชนิดนี้ยังเป็นกระเบนที่ใหญ่ที่สุด ขนาดใหญ่สุดอาจมากกว่า 15 ฟุต มันว่ายน้ำไปมา กลับตัวหงายท้อง พลิกไปพลิกมา มันมา ทุกคนต่างก็ชื่นชมส่งเสียงอู้อ้ากันใหญ่ ว่ายน้ำเล่นกับเราสักพักแล้วก็ไป รวมแล้วเราเห็นทั้งหมด 6 ตัวด้วยกัน เวลาสี่สิบห้านาทีผ่านไปเร็วมาก



ดำน้ำเสร็จเขามีซุปร้อน และเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นเสริฟ รวมอยู่ในแพ็กเก็จเรียบร้อยแล้ว

No comments: