Tuesday, November 23, 2010

Sedona – Red rock country II

Huckaby Trail

ตื่นขึ้นมาก็ไปทานอาหารเช้าที่ห้องกินข้าว ที่นี่มีชา กาแฟ น้ำผลไม้เตรียมไว้ให้เราเลือกดื่มได้ตามชอบใจ มีโยเกิร์ตและกะโนล่าให้ด้วย แต่เขาจะเสริฟผลไม้ก่อน


ตามด้วยอาหารเช้า ที่จะเปลื่ยนไป ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน


วันที่สองของการพักผ่อนที่ซีโดน่า เราจะไปเดินป่ากัน เส้นทางที่เราเลือกเดินในวันนี้ชื่อ Huckaby Trail เป็นเส้นทางใหม่สุด เพราะทางเดินอยู่ระหว่างสันเขาจะทำให้เห็นวิวเมืองซีโดน่าอยู่เบื้องล่างด้วย


อากาศบนเขาเย็นได้ใจ เช้าวันนั้นอุณหภูมิประมาณ 10 องศาได้ จุดเริ่มต้นเป็นที่จอดรถ มองเห็นหินถุงมือซึ่งเป็นจุดกำเนิดชื่อสันเขา Mitten Ridge เป็นสีแดงอยู่กลางฟ้าใส


ตามทางเดินมีลูกไม้ป่าสีแดงอวดโฉมอยู่ต้นหนึ่ง ไม่ค่อยได้เห็นพืชผลในเมืองนี้เท่าใดนัก เลยชักรูปเก็บไว้เป็นทีระลึกเสียหน่อย


ทางเดินเป็นดินแดงเป็นดินปนหิน คิด ๆ ไป ก็คล้ายกับจังหวัดทางภาคใต้บ้านเรา ที่เป็นเขาลูกรังปลูกยางพารากัน


วิวตามทางเดินสวยมาก เห็นภูเขาสีแดงเป็นระยะ ๆ เช่น Munds Mountain อยู่เบื้องหลัง


และหินเรือไอน้ำ (Steamboat Rock) อยู่เหนือเมือง ซีโดน่า อยู่อีกฝั่ง


พืชพรรณแถวนี้ส่วนใหญ่จะเป็นกระบองเพ็ชรแพรหนาม (Prickly Pear Cactus) ต้นอะกาเว่ (Agave)


บางต้นมีออกดอกยอดสูงเสียดฟ้า แต่ฤดูนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ดอกมันจึงแห้งตายโด่เด่


เราจะเดินอ้อมเขาลูกนี้ ซึ่งมีหินหัวแม่โป้งยักษ์ (Giant’s thumb rock)
อยู่ตรงยอด


พ้นทางเดินตัดสันเขาดินแดง ปีนสูงไปเรื่อย ๆ เราจะผ่านเหวลำธาร Oak Creek เป็นผาหินสูงแข็งแรง


จากนั้นทางเดินจะเริ่มลดระดับลง ไปสู่ลำธาร Oak Creek ที่พืชพรรณเล็ก ๆ เริ่มเปลี่ยนสี


แล้วเราก็เดินเลียบลำธารไปสิ้นสุดที่สะพาน Midgely Bridge จากนั้นเราก็เดินย้อนกลับมาที่จอดรถ รวมเป็นระยะทางไปกลับประมาณ 6 ไมล์


ขากลับโรงแรมเราแวะที่ตัวเมืองซีโดน่า เพื่อหาอาหารกลางวันกิน วิวที่เมืองสวยดี เห็นหินเรือไอน้ำ (Steamboat Rock) อยู่ใกล้ ๆ


อีกฝั่งก็มองเห็นหินหัวแม่โป้งยักษ์ (Giant’s thumb rock) ที่เราเพิ่งไปเดินมาด้วย



กลับที่พักหาของว่างกิน วันนี้เขาทำแคร็อทเค็กกินกับน้ำชาอุ่น ๆ ชื่นใจ เย็นนั้นก็ฝากท้องกับร้านอาหารอิตาเลี่ยนใกล้ที่พัก ตั้งแต่มาเที่ยวคราวนี้กินอาหาร 3 มื้อหนัก ๆ ทุกวัน น้ำหนักขึ้นเป็นกองเลย ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ไปเดินป่าอีกแล้ว ได้ออกกำลังกายไปด้วย คงไม่เป็นน่า คอยอ่านตอนต่อไปนะจ๊ะ

No comments: