Tuesday, July 07, 2009

Prince Edward Island – 5

อาหารบนเกาะ

PEI เป็นเกาะแห่งหอยหลากชนิด ไม่ว่าจะเป็นหอยนางรม (Oyster)หอยตลับ(Clam)หอยแมลงภู่(Mussel)แหล่งน้ำที่นี่เหมาะแก่การเจริญเติบโตของหอยเหล่านี้เป็นอย่างดี



วันหนึ่งอยากกินหอยเยอะ ๆ ซื้อมาหลากชนิด หลายกิโลเอามาอบไวน์ขาวกับหอมแดง กินกับขนมปังกระเทียม กับข้าวโพดต้มหวาน ๆ ดื่มกลั้วเบียร์หรือไวน์ตามชอบ ถูกใจจริง ๆ



หอยนางรมนั้น แกะกันมากินสด ๆ จะบีบมะนาวนิด เติมซ๊อสพริกหน่อย หรือซ๊อสไวน์หอมแดงเหยาะ ก็เลือกกินได้ตามใจ ไม่มีใครว่า



วันหนึ่งโชคดีไปที่บ้านเพื่อนคนไทยเขาเสริฟเครื่องเคียงแบบไทย เช่นน้ำพริกเผา หอมแดงทอด ก็อร่อยดี ขาดแต่ยอดผักกระถินไปอย่างเดียว



หอยเปลือกอ่อน - Soft Shell Clam สด ๆ เอามานึ่งจิ้มเนยเหลวก็อร่อย



เอาหอยหลากชนิดมาทำ Clam Chowder มัน ๆ เพิ่มพลังแข็งแรงดี ชามนี้สามีเพื่อนคนไทยที่นั่นทำให้ เสริฟมาในชามขนมปังน่ากิน



ไม่อยากทำอาหารเอง หรือไม่มีเพื่อนเชิญไปกินข้าวที่บ้าน จะไปทานในร้านอาหารหรู ๆ สั่งปลาหมึกย่างมากินเีรียกน้ำย่อย



ตามด้วยข้าวอิตาลี่ Risotto ใส่อาหารทะเลสด ๆ ก็เท่ดี



ใครที่อยากกินอาหารเบา ๆ สั่งสลัดหัวบีทหลากสีมากินก็ดูสวยงาม ร้านอาหารดี ๆ มีเชฟเก่ง ๆ บนเกาะมีเยอะแยะ



ที่ขาดไม่ได้คือกุ้งล๊อบสเตอร์ จะสั่งแบบต้ม จิ้มเนยเหลวแบบนี้



หรือจะแฟนซีทำเป็นอาหารเด็ด ๆ อย่างแซนวิชอันนี้ก็ไม่มีใครว่า



อย่าลืมกินไอติม Cow ไอติมประจำเกาะด้วยนา เดี๋ยวจะขาดอะไรไปอย่างหนึ่ง เขาทำโคนใส่ไอติมเองด้วย ขายดีมาก ทำแทบไม่ทันเลยนิ


7 วันบนเกาะก็จบลงด้วยประการฉะนี้

Prince Edward Island – 4

กอล์ฟและอื่น ๆ

PEI มีประชากรแค่ประมาณ หนึ่งแสนสี่หมื่นคน แต่มีสนามกอล์ฟ 30 กว่าสนาม และหลาย ๆ สนามก็เป็นสนามระดับต้น ๆ ของประเทศเลยทีเดียว



เพราะมีสนามอยู่้มากมาย ถึงแม้จะจองเวลาไปตีตอนวันหยุดสนามก็ไม่แน่นเหมือนโตรอนโต ตีกันสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ



บางสนามอยู่ติดทะเล ได้ตีกอล์ฟไป ฟังเสียงคลื่นไป ยิ่งถ้ารอบนั้นตีดี ๆ อารมณ์ผ่องแผ้วดีแท้ ๆ



บางสนามไม่นำเข้าทรายจากที่อื่น ทิ้งหลุมทรายให้เป็นดินหรือทรายแดง บ่งบอกสภาพดินแท้ ๆ ของสนาม



เพราะสภาพสนามเป็นป่าตามธรรมชาติด้วย บางครั้งก็จะเห็นสัตว์ป่าออกมาเพ่นพ่าน ตามที่เห็นก็เช่น หมาจิ้งจอกตัวนี้ โชคดีที่บนเกาะยังไม่มีโรคพิษสุนัขบ้า จึงค่อนข้างปลอดภัยที่จะเข้าไปถ่ายรูปใกล้ ๆ หน่อย



หรือที่น่ารัก ๆ อย่างเจ้ากระต่ายป่า ขนฟู หูตั้งตัวนี้ พอเข้าไปใกล้นิด เจ้ากระโดดนี้ทันทีเลย



นกน้ำ Heron ชนิดนี้ก็มีให้เห็นตามหนองบึงทั่วไป บางทีก็เห็นตัวเดียว บางทีก็เห็นเป็นกลุ่มสามสี่ตัว



นก Cormorant เป็นฝูงใหญ่ รวมกันอยู่บนตอสะพานเก่า ๆ ในวันฟ้าหม่น



ถ้าผ่านหมู่้บ้านก็มักจะเจอโบสถ์ตั้งตระหง่าน อาจมีรูปทรงแบบนี้ ซึ่งเป็นสไตล์ของ Roman Catholic Church



ถ้าเป็นแบบ St Dunstan’s Basilica โบสถ์เก่าแก่ของเมือง Chalottetown ก็เรียกว่าเป็น Cathedral หรือ Christian church



นอกจากนั้่นก็อาจแวะเยียมชมบ้านเก่า ๆ ที่นำมาเป็นที่พักหรือโรงแรม อย่าง Dalvay By-The-Sea บ้านพักต่างอากาศของคนมีอันจะกินสมัยก่อน



ได้ชมวิวสวย อาหารดี ๆ หนีฝนกันเปียก



ที่ต้องแวะชมอีกแห่งคือ The Dunes Gallery and Café เจ้าของเป็นฝรั่งกับหุ้นส่วนเป็นคนอินโดนีเชีย มีห้องแสดงสินค้าสวย ๆ จากทั่วโลก



มีสวนสวย ๆ สไตล์เอเชีย น่าพักผ่อน



แถมมีดอกบัวหลากสีให้ดูชม ให้คิดถึงเืมืองไทยเล่น ๆ



ยังมีต่อ..

Monday, July 06, 2009

Prince Edward Island – 3

Scenic Drive

เราใช้เวลาขับรถรอบเกาะอยู่สองสามวัน วันละประมาณ 4-5 ชั่้วโมง น่าเสียดายที่ฝนตกหรือไม่ก็ฟ้ามืดทุกครั้ง ภาพเลยออกมาไม่ค่อยแจ่ม



อย่างที่บอกไปแล้วว่าเกาะนี้พื้นที่ราบเรียบ นอกเสียจากตรงกลางเกาะที่กว้างประมาณ 4 ไมล์ ความยาวจากเหนือจรดใต้ ที่พื้นที่เป็นคลื่นสูงต่ำ



กอร์ปกับบ้านเกือบทุกหลังบนเกาะ ภายนอกจะกรุด้วย Vinyl Siding มีลักษณะเหมือนแผ่นไม้หลากสี เมื่อปลูกอยู่บนเนินหลากความสูง ทำให้ดูสวยงาม



จะเปรียบไปแล้ว PEI ก็เหมือนเกาะแห่งชาวไร่ มองไปทางไหนก็เจอแต่เรือกสวนกว้างใหญ่ หรือคอกปศุสัตว์ กลางลานกว้าง



บ้านแต่ละหลังก็อยู่ห่าง ๆ กันไป



ช่วงนี้เป็นหน้าที่ดอกลูพิน (Lupin) กำลังบาน มีให้เห็นมากมายตามไหล่ทางบนถนนเกือบทุกเส้น เลยได้เก็บภาพมาให้ดูหลายภาพหน่อย



ปรกติดอกไม้ป่าพันธุ์นี้มักมีสีม่วงเป็นหลัก แต่ก็มีสีอื่น ๆ อย่างสีขาว สีชมพู หรือสีออกแดง ๆ ให้เห็นบ้างประปราย ที่สวยสุดในความเห็นเราก็คงยกให้ดอกสีผสม ม่วงครึ่งหนึ่ง ขาวครึ่งหนึ่ง



ดอกไม้ป่าอื่น ๆ ก็แข่งกันเบ่งบาน ดอกเล็ก ๆ สีขาว สีเหลืองและสีแดง ถ่ายออกมามีบ้านเป็นฉากหลังก็สวยดี



ไร่มันฝรั่ง พืชเศรษฐกิจประจำจังหวัดก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไป



เป็นแปลงสีเขียวสลับกับดินแดงน่าดูชม



ปากแม่น้ำหรืออ่าวบางอ่าวเป็นที่เลี้ยงหอยแมลงภู่สีดำ เขาจะผูกตะกร้าใ่ส่หอยแขวนไว้บนเชือกมีทุ่นหลากสีลอยอยู่บนผิวน้ำ เป็นแหล่งหารายไ้ด้ของคนบนเกาะอีกทางหนึ่ง



ถ้าขับรถผ่านแม่น้ำ เห็นเรือเล็ก ๆ จอดลอยลำอยู่ และคนบนเรือถือไม้ยาว ๆ กำลังงมหาอะไรอยู่ นั่นคือเขากำลังหาหอย โดยการใช้ตะแกรงด้ามยาว ๆ กอบงมจากใต้น้ำ



ท่าเรือบางแห่งเป็นที่จอดเรือของนักประมงกุ้งล๊อบสเตอร์ ที่เป็นท่าจอดเรืออย่างเดียว ไม่มีอาหารทะเลขาย ก็ดูเก่า ๆ เป็นธรรมชาติ มีแค่เรือ กระท่อมชาวประมง (Fisherman Shacks) และ ลอบเรียงราย



ในขณะที่บางท่าดูคึกคัก มีร้านขายสัตว์น้ำอยู่ด้วย กระท่อมก็ดูใหม่มีสีสรรสวยงาม



ลอบจับกุ้งล๊อบสเตอร์ เป็นนวัตกรรมของชาวประมงสมัยก่อนที่ยังคงใช้กันสืบต่อมาจนปัจจุับัน เขาเอาปลามาเสียบล่อไว้ข้า่งใน มีทางให้ล๊อบสเตอร์เข้าไปติดกับดัก มีช่องเล็ก ๆ ไว้สำหรับล๊อบสเตอร์ที่ไม่ได้ขนาดให้คลานออกมาได้ เหลือไว้แต่ตัวใหญ่ตามกฏหมายบังคับ คนกินก็อร่อย คนจับก็ได้ราคา เหลือทรัพยากรไว้ให้ใช้ต่อไปในอนาคตอีก



สิ่งที่สำคัญอย่างหนึ่งทีเป็นจุดขายของเกาะคือ หอประภาคาร



บนเกาะจะมีอยู่เยอะมาก และเป็นประภาคารขนาดไม่ใหญ่นัก บางแห่งยังใช้เป็นที่พักสำหรับนักเดินทางอีกด้วย



และที่ลืมไม่ได้ก็คือไปชมสะพานข้ามน้ำที่มีน้ำแข็งปกคลุมที่ยาวที่สุดในโลก นั่นคือ Confederation Bridge เชื่อมระหว่าง PEI กับ New Brunswick




ยังมีต่อ..

Sunday, July 05, 2009

Prince Edward Island – 2

Greenwich National Park

เราใช้เวลาครึ่งวันแรก ไปเดินเล่นที่ อุทยานแห่งชาติกรีนนิช วันนั้นเป็นวันแรกและวันเดียวที่เราได้เจอแดดจัด ๆ ตลอด 7 วัน ที่เราอยู่บนเกาะ



อุทยานแห่งชาติกรีนนิช ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะ มีชื่อเสียงเรื่องวิวสวย ๆ โดยการเดินบนสะพานไม้อันยาวเหยียดผ่านเนินทรายอันสวยงาม



ใช้เวลาิเดินทางจาก Charlottetown ประมาณ 40 นาทีได้ เมื่อไปถึงต้องเสียค่าธรรมเนียมการใช้วนอุทยา่น อาจเสียเป็นวันหรือเป็นสัปดาห์หรือทั้งปีก็ได้



ทางเดินในช่วงแรกเป็นทางเดินโล่ง ๆ ไม่มีอะไรเลย นอกจากดอกไม้ป่าเล็ก ๆ ริมทาง ทำเอาใจแป้วไปนิด กลัวว่าจะไม่เห็นอะไรสวยงาม



ที่เห็นมากหน่อยก็คงเป็นราสป์แบรรี่ป่า ขึ้นเป็นดง มันเพิ่งออกดอก หรือไม่ก็ผลเริ่มติด ยังกินไม่ได้ ถ้ามาปลายเดือนกรกฏาคงได้กินจนอิ่มจุใจ



ขั้นต่อไปต้องตัดผ่านป่าไม้ทึบ มีไม้พวกสนขึ้นเป็นส่วนใหญ่



บางช่วงเห็นดอก Bunchberry Dogwoods ขึ้นเป็นดง



กลางป่าอันหนาทึบ รองเท้านารีสีชมพูอมม่วง เบ่งบานอยู่หลายดอก



คิดว่าน่าจะเป็นแผนอัีนเลวร้ายของพวกยุงทั้งหลาย เพราะทันทีที่เราหยุดเดินเพื่อถ่ายรูป พวกมันก็กรูล้อมกันเข้ามาสูบเลือดกินเนื้อของเรา จนต้องรีบวิ่งหนีเพื่อเอาชีวิตรอดแทบไม่ทัน เลยได้รูปสวย ๆ มาแค่สองรูป



ออกจากป่าก็เจอสะพานไม้ ทอดยาวผ่านพื้นที่ทราย ที่เริ่มมีสิ่งมีชีวิตอย่างมอสหรือหญ้าขึ้นเป็นหย่อม ๆ



จากนั้นสะพานก็จะพาดผ่านหนองน้ำตื้น ๆ มีหญ้าเขียว ๆ ขึ้นเป็นช่วง ๆ แมลงปอเข็มสีน้ำเงินเข้มบินว่อนเต็มหน้าน้ำ



ถึงแม้จะเป็นหน้าร้อนแต่นักท่องเที่ยวก็บางตา ปลายสะพานไปจรดหาดทรายใกล้่ทะเล



ที่ชายหาดมีถั่วลันเตาทะเลขึ้นอยู่ทั่วไป ช่วงนี้มันกำลังออกดอกสีชมพูเข้ม เต็มหาด



น้ำทะเลใส มีสาหร่ายลอยล่้อง ลองเอาเท้าแหย่ลงไป น้ำเย็นเจี๊ยบ ชักกลับแทบไม่ทัน ถ้าเล่นคงหนาวแย่


ยังมีตอนต่อไป...