Saturday, November 20, 2010

Scottsdale – golfers’ heaven

Scottsdale เป็นเมืองในรัฐ Arizona ห่างจากแอร์พอร์ทที่ Phoenix ประมาณครึ่งชั่วโมง เราจองห้องที่ Inn at Eagle Mountain ไว้ 3 วัน ไม่มีแผนจะทำอะไรมากมายนอกจากตีกอล์ฟสองรอบ ที่เหลือก็พักผ่อนไปตามเรื่อง



เพราะเมืองตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทราย Sonoran สภาพภูมิศาสตร์ของเมืองจึงเป็นทะเลทรายมีภูเขาเตี้ย ๆ อยู่ประปราย มองไปทางไหนเห็นแต่กระบองเพ็ชรพันธุ์สูง ที่เรียกว่า Saguaro Cactus เต็มไปหมด



ห้องพักของเรากว้างขวาง เตียงขนาดใหญ่ มีที่นั่งเล่นหน้าเตาผิง หลังห้องมองเห็นวิวสนามกอล์ฟกลางหุบเขาสวยงาม



สนามกอล์ฟอยู่ในสภาพดีมาก ๆ หญ้าเขียวสดถึงแม้จะอยู่กลางทะเลทราย ทุกหลุมลาดเอียง ชันบ้าง ไม่ชันบ้าง เพราะอยู่ระหว่างหุบเขา รับรองหาหลุมราบเรียบไม่เจอ




ในสนามมีสัตว์ป่ามากมาย ที่เห็นบ่อยที่สุดคือเจ้านกกระทาแกมเบิ้ล Gamble Quail ซึ่งตัวผู้จะมีหน้าและหัวสีดำคาดขาว มีหงอนสูง



ส่วนตัวเมียก็เป็นสีน้ำตาลพื้น ๆ เหมือนสัตว์ทั่วไปที่ตัวผู้สวยกว่าตัวเมีย ช่างไม่ยุติธรรมเสียจริง ๆ



Road Runner นกในการ์ตูนมีมากแต่มันไวเหลือเกินถ่ายรูปไม่ทัน เอาเจ้า Jack Rabbit กระต่ายป่าตัวเพรียว ไปดูกันก่อนนะ



เย็นวันหนึ่งกำลังจะขับรถไปหาข้าวทาน เจ้านกเขาคู่นี้ เกาะกิ่งไม้นิ่งสงบ หลบความร้อนจากแสงตะวัน ไม่กลัวคนด้วยนะ จอดรถถ่ายรูปตั้งหลายช็อท มันก็ยังไม่ไหวติง



วันนั้นโชคดี ถ่ายรูปนกเขาเสร็จ ฝูงหมูป่าที่เรียกว่า เฮเวลีน่า (Javelina) ทั้งลูกเด็กเล็กแดง พ่อแม่และปู่ย่าตายาย กำลังพากันวิ่งข้ามถนนที่รีสอร์ทอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ หมูวัยรุ่นตัวหนึ่งหยุดมองสาวไทยคนสวย ให้ถ่ายรูปเฉยเลย เสียดายได้มาแค่รูปเดียว



ห้องพักเป็นแบบรวมอาหารเช้าซึ่งเราต้องไปนั่งกินที่คลับเฮาส์ของสนามกอล์ฟ วิวสวยอีกเช่นเคย ที่นี่เรากินแพนเค็กทุกเช้า เพราะเขาทำได้ดีมาก แป้งนุ่ม สุกกำลังดี ไม่มันเยิ้ม กินกับไส้กรอก หรือไข่ หรือเบคอนสลับกันไป แบบไม่กลัวความอ้วนถามหาเล้ย...



อาหารเย็นวันแรกเราก็ไปกินอาหารไทย รสชาติใช้ได้ แต่ไม่มีอะไรโดดเด่น วันที่สองเราไปกินอาหารอิตาเลี่ยน เป็นร้านอาหารธรรมดา ไม่หรูหราอะไร แต่อาหารอร่อยมาก ราคาไม่แพงเหมือนอาหารไทย ถ้าใครไปแถวนั้น ลองดูนะคะ ชื่อร้าน Nick’s Italian Restaurant



วันที่สามเราไปทานอาหารท้องถิ่นหรือที่เรียกว่า South Western Cuisine ซึ่งจะมีอิทธิพลของอาหารแม็กซิกัน ไปร้านอาหารชื่อ Blue Adobe เริ่มต้นด้วย Tortilla Chips กินกับ Salsa และอะโวกาโด้บดที่เรียกว่า Guacamole



ส่วนอาหารหลักก็มี Shrimp Cocktail Relleno , Lobster Tamale with Mango Salsa & Raspberry Chipotle และ Enchiladas รวม Margarita และ Beer ด้วย ยังถูกกว่าอาหารไทยหรืออาหารอิตาเลี่ยนที่ไปกินวันก่อนอีก แถมร้านก็หรูกว่าด้วย เอากับเขาสิ



พักที่ Scottsdale สามวัน มีความสุขเต็มที่ ตีกอล์ฟดีด้วย จากนั้นเราก็ต้องเดินทางต่อไปยังเมืองหินแดง Sedona เขาว่าวิวสวยมากเลยมาคอยดูกันนะ

Monday, October 11, 2010

Fall 2010

ฤดุใบไ้ม้ร่วงเป็นฤดูโปรดของเรา เพราะใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงที่มีสีผสมระหว่างสีเขียว เหลือง ส้ม แดง และน้ำตาล มองไปทางไหนก็สวย



ต้นเมเปิ้ลมีหลายพันธุ์ เป็นต้นไม้เอกของฤดูนี้ ตอนที่มันยังไม่เปลี่ยนสี บางทีเราก็เห็นใบเขียว ใบออกม่วง ๆ หรือออกเหลือง ๆ ตอนที่เปลี่ยนสีแล้ว จะเป็นสีแดง ส้ม หรือเหลืองอมแดง สวยมาก ๆ



ต้น Birch ตอนเปลี่ยนสีใบเป็นสีเหลืองโทนเดียว แต่เพราะลำต้นเป็นสีขาว ทำให้เกิดสีตัดกันสวยงาม



ปรกติทุก ๆ ปี เราจะขับรถกินลม เที่ยวชมใบไม้ช่วงฤดูกาลวันขอบคุณพระเจ้า แต่ปีนี้มีโปรแกรมตีกอล์ฟ ก็เลยได้ถ่ายรูปจากสนามกอล์ฟแทน



วันนี้ฟ้าใส ทำให้สียิ่งสวย เพราะมีสีฟ้าผสมปุยเมฆสีขาวเป็นฉากหลัง



นอกจากนั้นเขาก็ยังเอาฟักทองลูกยักษ์มาตกแต่งสนามเป็นจุด ๆ ไป ก็สวยไปอีกแบบ



น่าเสียดายที่บางจุดเราแวะถ่ายรูปไม่ได้ เพราะเวลาไม่มี หรือแสงเงา ไม่เป็นใจ



ถึงกระนั้นรูปก็ยังออกมาสวยพอใช้



อีกไม่กี่วันใบไม้ก็คงร่วงโรย ต้องคอยไปอีกปี กว่าจะได้เห็นอีก เก็บความทรงจำไว้ด้วยกล้ิองดิจิตอลตัวเล็ก ๆ ไว้ดูเล่นช่วงที่เราต้องรอ

Saturday, October 02, 2010

Hilton Falls Autumn Hike

เผลอแป็ปเดียวใบไม้เปลี่ยนสีแล้ว วันนี้ถึงแม้ฝนจะตกปรอย ๆ ก็ยังไม่เปลี่ยนใจจะไปดูใบไม้สวย ๆ ที่น้ำตกฮิลตัน (Hilton Falls) อยู่ในเขตเมือง Milton จากบ้านไปก็ขับรถบนทางหลวง 401 (HWY 401) ไปทางทิศตะวันตก ไปออกที่ Highway 25 ไปทางเหนือ แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนCampbellville Rd ไปทางทิศตะวันตกอีกประมาณ 5 กิฺโลเมตร ก็จะถึง Hilton Falls Conservation



ก่อนถึง Hilton Falls Conservation บนถนน Campbellville Rd มีฟาร์มม้าที่สวยที่สุดเลย เพราะด้านหลังเป็นสันเขาไนแอการ่า (Niagara Escarpment) ซึ่งเป็นเทือกเขาเตี้ย ๆ เทือกเดียวในออนทาริโอ



ยิ่งฤดูนี้ใบไม้เป็นสีเหลืองแดงตัดกับทุ่งหญ้าสีเขียวสวย มีรั้วไม้สีเข้มเป็นแนวยาวน่าดูยิ่ง



จากที่ทำการของ Hilton Falls Conservation จะมองเห็นหน้าผา Rattlesnake point ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสันเขาไนแอการ่า



ที่นี่มี Trails ให้เลือกเดิน 3 Trails ด้วยกัน แต่เนื่องจากฝนตก เราก็เลยเลือกที่จะเดินเส้นทางเดียว เป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร



ตอนนี้ใบไม้ส่วนใหญ่เป็นสีเหลือง มีใบร่วงหล่นบนพื้นทับถมในปริมาณพอเหมาะ ทำให้สวยงาม



ต้นเมเปิ้ลบางพันธุ์มีใบสีส้มแดง ตัดกับลำต้นสีเข้ม เป็นพันธุ์ที่สวยที่สุด และมักจะเปลี่ยนสีก่อนพันธุ์อื่น ๆ



ระหว่างทางจะเห็นหนองน้ำที่เกิดจากเขื่อนกั้นน้ำ ซึ่งก็มีลำธารเล็ก ๆ ไหลลงเขื่ีอนด้วย ฤดูนี้มีน้ำปริมาณไม่มากนัก



เราจะเดินไปดูน้ำตก ก็จะต้องมีการขึ้นเขาเล็กน้อย ไม่งั้นน้ำตกไม่ได้ใช่มั้ย เขาที่ว่าก็เป็นส่วนหนึ่งของ Niagara Escarpment นั่นเอง เพราะเขาที่นี่เกิดจากการสลายตัวของดินและหิน เวลาผ่านไปเป็นล้านปี ส่วนที่มันอ่อนนุ่มหน่อยก็ค่อย ๆ หายไป เหลือแต่ชั้นหินแข็ง ๆ ให้เราเห็น ณ ปัจจุบัน



Trails ที่นี่เป็น Trail เอนกประสงค์ หน้าร้อนเป็นที่เดิน หรือปั่นจักรยาน หน้าหนาวเป็นที่เล่นครอสคันทรี่สกี และเป็นที่นิยมของคนทั่วไป



เดินไม่นานก็ได้ยินเสียงน้ำไหล แสดงว่าใกล้น้ำตกเข้ามาเต็มที ส่วนของลำธารมีขนาดไม่ใหญ่ และมีน้ำเพียงเล็กน้อย ถ้ามาฤดูสปริงจะมีน้ำมากกว่านี้



และแล้วเราก็เห็นน้ำตกหล่นจากหน้าผาสูงประมาณ 10 เมตร เราสามารถเิดินลงบันไดไปดูด้านล่างได้



ข้างน้ำตกใหญ่จะเห็นหน้าผ้าเป็นหินชั้น มีม่านน้ำตกบาง ๆ และมอสสีเขียวปกคลุม



บริเวณน้ำตกมีใบเมเปิ้ลแดงหล่นเต็มไปหมด ดูเป็นพื้นพรมสีแดงสวยดี



ระหว่างเดินกลับมาที่จอดรถ เห็นใบเมเปิ้ลสีแดงทับใบสีเหลืองบนพื้น คิดว่านักท่องเที่ยวบางคนคงทำไว้เพื่อถ่ายรูป



ขอนไม้บางขอนมีเห็ดขึ้นเต็มเพราะความชิ้นสูง ไม่รู้กินได้หรือเปล่า



ต้นไม้บางต้นก็มีรูปร่างแปลก ๆ ถ่ายรูปเพลินดีเหมือนกัน



เดินไป ชมวิวไป เวลาผ่านไปชั่วโมงกว่า ๆ ฝนยังตกพรำ ๆ แต่ก็คุ้มล่ะ

Monday, August 23, 2010

Camping in Prince Edward County

ไม่มีอะไรทำ เพื่อนชวนไปแค้มปิ้ง ก็เลยไปอีก คราวนี้เราไปแค้มปิ้งที่วนอุทยานส่วนจังหวัดชื่อแซนด์แบงค์ (Sandbank Provincial Park) ตั้งอยู่ในเขตของ Prince Edward County ซึ่งอยู่ห่างจากโตรอนโตไปทางทิศตะวันออกประมาณ 200 กิโลเมตร

เราออกเดินทางตอนเย็นวันพฤหัส เป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนพอดี จราจรก็เลยติดขัด กว่าจะถึงอุทยานก็เลยมืดมิด ต้องตั้งเต้นท์กันมืด ๆ อาศัยไฟฉาย เทียนกับไฟหน้ารถ ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จ


อาหารมื้อเย็นวันนั้นเป็น Shish kabob เนื้อแกะกับเนื้อหมูเสียบไม้ย่าง อร่อยดีแท้ อากาศคืนนั้นก็เย็นสบาย เลยหลับอย่างเป็นสุขทั้งคืน

เราตื่นสายตะวันโด่ง อาหารเช้าเป็นซีเรียลกับนมง่าย ๆ มีกาแฟสดหอมกรุ่นดื่มกลั้วคอ ที่ตั้งแค้มป์ของ Sandbank Provincial Park ค่อนข้างเก่า ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำทรุดโทรม เนื่องจากเป็นที่นิยมของนักแค้มป์ทั้งหลาย ถึงแม้มีการทำความสะอาดวันละสองครั้งก็ยังไม่ถูกใจ อีกทั้งที่ตั้งแค้มป์แต่ละล็อทก็ใกล้กัน เราไม่ค่อยชอบเลย


วันนี้เรามีโปรแกรมไปเดินสายชิมไวน์กัน Wine tasting เป็นหนึ่งในสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ Prince Edward County ใช้อยู่ แต่ก่อนที่เคาน์ตี้นี้มีผู้ผลิตไวน์เพียงไม่ถึง 5 ราย แต่ในระยะเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 5 ปี ทางเคาน์ตี้มีผู้ผลิตไวน์ถึงเกือบ 40 เจ้าเข้าไปแล้ว


ผู้ผลิตส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตรายย่อย ไม่สามารถผลิตไวน์ขายตามร้านขายไวน์ของจังหวัดหรือ LCBO ได้ จึงขายกันภายในท้องถิ่นอย่างเดียว สิ่งหนึ่งที่เราสังเกตเี่กี่ยวกับไวน์ของออนทาริโอคือสนนราคาค่อนข้างแพงเทียบกับไวน์นำเข้า ไม่ว่าจากซิลี ออสเีตรเลีย หรือยุโรป แต่ถ้าต้องการสนับสนุนอุตสาหกรรมท้องถิ่นก็ไม่ว่ากัน

สถานที่ชิมไวน์ส่วนใหญ่เป็นโรงนาเก่า ๆ บางที่ก็ทำความสะอาด แต่ยังคงเหลือคราบของความเก๋าไว้ให้เป็นเสน่ห์ ภายในยังเห็นขื่อแปรทำจากต้นไม้ทั้งต้นก็มี


บางที่เอามาปรับปรุงตกแต่้งแบบสมัยใหม่ กรุภายในซะสวย ทาสีสันให้ดูสวยงาม จะนั่งชิมไวน์กลางแจ้งก็มีเก้าอี้สนามใต้เต้นท์ผ้าใบขึงเท่ห์ใว้บริการ


วันนั้นเราเดินสายชิมไวน์จากผู้ผลิต 6 เจ้าด้วยกัน บางเจ้าคิดค่าชิมเป็นแก้ว บางเจ้าก็คิดเป็นไฟล์ท (Flight) คือมีการให้เลือกชิมไวน์หลากชนิดแล้วแต่จะผู้ผลิต บางเจ้าก็มีทั้งแก้วและไฟล์ท หรือหลายไฟล์ท บางเจ้าก็ไม่คิดเงินค่าชิมเลย หลังชิมเสร็จทั้ง 6 เจ้า เกิดอาการเมาเล็กน้อย และก็ได้ซื้อไวน์ที่ชอบติดไม้ติดมือไปฝากคนที่บ้านให้ชื่นใจด้วย


ขับรถกลับผ่านเมืองเล็กชื่อ Wellington มีบ้านเก่าสวย ๆ หลากสี ใ้ห้ชมน่ารักดีแต่ถ่ายรูปไม่ทัน ออกนอกเมืองมาหน่อยก็มีบ้านทันสมัยหลังใหญ่สวย ๆ ติดทะเลสาบออนทาริโอให้อิจฉาเล่้นอยู่หลายหลัง


เมานิด ๆ ยังไม่สะใจ กลับมาที่แค้มป์ ย่างไส้กรอกเป็นอาหารเย็นวันนี้ ได้ไส้กรอกจากคนลาวติดไม้ติดมือมา หอมกลิ่นเครื่องเทศ ใบมะกรูด อร่อยดี กินกะไวน์แดง ขวดหนึ่งสองคน อีกคนดื่มเบียร์ นอนหลับปุ๋ยกันทั้งสามคน

วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันเสาร์ มีโปรแกรมไปว่ายน้ำที่บีช ที่ไหนได้ตื่นมาฟ้ามืดครึ้ม พยากรณ์อากาศเมื่อสองวันก่อนใช้ไม่ได้แล้ว


น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่งเพราะแถวนี้เป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบออนทาริโอ มีหาดทรายสีขาวสวยงาม ถึงได้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจที่ขึ้นชื่อ


ใกล้ ๆ กับแค้มป์ มีิเนินทราย (Dune beach) สูงให้ย่ำเล่น วิ่งเล่น หรือดูเฉย ๆ ถ้าใจไม่ถึง


ระหว่างเดินเล่นบนชายหาด เหลือบไปเห็นนกนางนวลตัวหนึ่ง อยู่ในวาระใกล้ตาย หายใจพะงาบ ๆ ช่างโชคดีได้ตายบนหาดทรายขาว


ไปนั่งเล่น นอนเล่นที่ชายหาดได้พักหนึ่ง พระอาทิตย์ก็ยังอาย ไม่ยอมโผล่มาจากหลังเมฆให้เห็นซักที เช็กพยากรณ์อากาศก็บอกว่าฝนจะตก ฟ้าจะคะนองตลอดคืน เลยต้องกลับมากินอาหารกลางวันที่แค้มป์ และตัดสินใจเก็บผ้าเก็บผ่อน แพ็กของกลับบ้าน แค้มปิ้งกลางสายฝน ยามฟ้าคะนอง ท่ามกลางป่าไม้สูง ไม่ใช่เรื่องตลก จับพลัดจัลผลู ฟ้าฝ่าต้นไม้ หล่นลงหัว อาจตายก่อนมีฝันที่เป็นจริง


หลังจากเก็บข้าวของท่ามกลางสายฝนที่ตัดสินใจหล่นลงเร็วกว่ากำหนด เราก็ออกเดินทางไปยัง Lake on the mountain เพราะได้จองโต๊ะรับประทานอาหารเย็นกันที่นั่นล่วงหน้าไว้แล้ว


ระหว่างทางผ่านเมือง Picton เมืองเล็ก ๆ ที่นักท่องเที่ยวมักแวะมาหาอะไรกินถ้าผ่านมาแถวนี้ มีตึกรามขนาดไม่ใหญ่หลากสี ขนาดร้าน Dollar Store ยังน่ารักเลย


วิวของ Lake on the mountain ยังสวยงามถึงแม้ฟ้าจะหม่น เมฆจะดำ


ข้ามถนนไปอีกฝั่งก็จะเห็น Bay of Quinte ซึ่งก็ยังเป็นส่วนหนึ่งของ Lake Ontario นั้่นแหละ


แค้มปิ้งของเราจึงจบลงสั้น ๆ มันคงเป็นแค้มปิ้งสุดท้ายของเรา หลังจากได้ลองตั้งแค้มป์สองครั้งในหนึ่งปี เราว่าเราชอบพักผ่อนห้องภายในโรงแรมหรือรีสอร์ทที่สะอาดสะอ้านสวยงาม มากกว่าจะไปนอนกลางดิน กินกลางทราย ให้ยุงดูดเลือดเล่น ยิ่งไปเจอห้องน้ำกลางป่าสภาพเสื่อมโทรมยิ่งหมดสนุก เอวังกับการแค้มปิ้งด้วยประการฉะนี้